Apple ปรับแนวทางด้าน AI ใหม่ พลิกโฉมประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Apple รีแบรนด์ Artificial Intelligence Efforts เป็น Apple Intelligence โดยเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Apple ปรับแนวทางด้าน AI ใหม่ พลิกโฉมประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

Key Takeaway

  • Apple ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้าน AI ใหม่ โดยใช้ชื่อ "Apple Intelligence" เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้
  • ผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ของ Apple เน้นการใช้งานเชิงปฏิบัติ เช่น การสรุปใจความ, การถอดเสียงเป็นข้อความ, การเติมข้อความอีเมลอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ workflow ให้ผู้ใช้
  • Apple มีแผนอัปเกรด Siri ให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ทรงพลัง สามารถทำงานข้าม app ต่างๆ ได้ ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากนักพัฒนา
  • การนำ AI มาใช้ของ Apple อาจก่อให้เกิดข้อกังวลบางประการ เช่น ผลกระทบต่อการทำงานและปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีของเรา

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft และ Amazon ต่างก็โอบรับ Artificial Intelligence (AI) อย่างเปิดเผย ในขณะที่ Apple ยังคงเงียบเรื่องการใช้เทคโนโลยีนี้ค่อนข้างมาก แต่พัฒนาการล่าสุดเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของ Apple ผู้บริหารคนสำคัญอย่าง Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ และ Eddie Cue หัวหน้าฝ่ายบริการ ระบุว่า Apple เป็นผู้นำด้าน AI มาหลายปีแล้ว ด้วยการผสานรวม machine learning เข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างเข้มงวด

เมื่อราว 8 ปีก่อน ในช่วงที่ deep learning AI กำลังเติบโต Apple เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หนึ่งปีให้หลัง เมื่อ Generative AI อย่าง ChatGPT ของ OpenAI เกิดขึ้น วงการเทคโนโลยีเริ่มตัดสินบริษัทต่างๆ จากการตอบสนองต่อเทรนด์นี้ Apple จึงปรับโฟกัสใหม่ด้วยการย้ายนักวิทยาศาสตร์ AI ชั้นนำจากโปรเจกต์อย่างรถยนต์ไร้คนขับ และ Vision Pro headset ความจริงผสม (mixed-reality) มาพัฒนากลยุทธ์ Generative AI เฉพาะตัว ซึ่งแนวทางใหม่นี้ถูกเปิดเผยในงาน Worldwide Developers Conference

Apple ตัดสินใจที่จะใช้ชื่อ Apple Intelligence แทนที่จะเป็น Artificial Intelligence (AI) ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ การ Rebranding ครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแตกต่างให้ Apple ห่างไกลจากภาพลักษณ์ที่น่ากลัวของ AI โดย Apple มีเป้าหมายที่จะใช้ Generative AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เครื่องมือ AI เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ใช้ บริษัทวางแผนที่จะผสานประโยชน์ของ AI เข้ากับ Workflow ประจำวันอย่างราบรื่น

หน้าจอ iPhone แสดงแอปพลิเคชันการส่งข้อความและการใช้งาน Siri ในการวางแผนมื้ออาหาร 5 คอร์ส มีการแชทวันเกิดและข้อความการวางแผนมื้ออาหารจาก Siri แสดงตัวอย่างบนหน้าจอ

ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในงาน Keynote ซึ่งรวมถึง Generative AI มุ่งเน้นไปที่การใช้งานในเชิงปฏิบัติ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีบริการต่าง ๆ เช่น การสรุปใจความ การถอดเสียงเป็นข้อความ (Transcribe) การเติมข้อความอีเมลอัตโนมัติ (Auto-complete) การจัดระเบียบกล่องจดหมาย (Inbox) การสร้างข้อความจาก Prompt และการลบ Photo-bomber ออกจากรูปภาพ Apple มุ่งหวังที่จะแนะนำคุณสมบัติเหล่านี้ให้เข้ากับ Workflow ปกติได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความพึงพอใจของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น Deep Search ใน Photos และการสร้างการตอบกลับอีเมลอัตโนมัติ ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน

Apple ยังมีแผนที่จะอัปเกรด Siri ด้วย แม้ว่า Siri จะถูกมองว่าล้าสมัยไปแล้ว แต่ Apple สัญญาว่าจะทำให้ Siri เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ทรงพลังและสามารถทำงานที่ซับซ้อนข้าม app ต่างๆ ได้ วิสัยทัศน์นี้ของ Siri จะต้องอาศัยการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากนักพัฒนา (developers)

การนำ AI หรือ Apple Intelligence มาใช้ของ Apple อาจก่อให้เกิดข้อกังวลบางประการในสังคม ศักยภาพของ AI ในการทำให้งานที่เคยต้องใช้เวลามากเป็นอัตโนมัติ อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ คำถามที่เกิดขึ้นคือ Siri จะประมวลผลความชอบของผู้ใช้และตัดสินใจเลือกพาดหัวข่าวที่เกี่ยวข้องอย่างไร แม้จะมีป้ายกำกับใหม่ แต่ AI ของ Apple ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีของเราอย่างมาก

Why it matters

💡
ข่าวนี้เป็นการเปิดเผยกลยุทธ์ใหม่ของ Apple ในการนำ AI มาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านการรีแบรนด์เป็น Apple Intelligence ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและการใช้งานจริง ผู้อ่านจะได้ทราบถึงแนวทางเฉพาะตัวของ Apple ที่แตกต่างจากคู่แข่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำเสนอในงาน WWDC ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราทำงานและมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีในอนาคต นับเป็นพัฒนาการสำคัญที่ผู้ติดตามวงการไอทีไม่ควรพลาด

ข้อมูลอ้างอิงจาก How Is Apple’s New Approach To AI Transforming User Experience And Productivity?