8 ฟีเจอร์ใหม่ใน Copilot+ ที่ผู้ใช้ Windows ทุกคนต้องรู้

Key Takeaways

• Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ มากมายสำหรับ Windows ในงาน Build ประจำปี ภายใต้ชื่อ Copilot+
• Recall เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ค้นหาประวัติการใช้งานแอปต่างๆ ได้ด้วยภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปที่ cloud
• GPT-4 ถูกรวมเข้ากับ Windows ทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• Small Language Models (SLMs) ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น
• Copilot Runtime เป็น code library ใหม่ที่จะปฏิวัติการพัฒนาซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนด้วย AI
• AI Agents ช่วยให้สร้าง workflow อัตโนมัติที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
• Cocreator เป็นส่วนเสริม AI ใน MS Paint ที่ช่วยในการสร้างภาพอย่างสร้างสรรค์
• คอมพิวเตอร์ Copilot+ รุ่นใหม่มี AI filters และการใส่คำบรรยายอัตโนมัติในแอปวิดีโอคอล
• Copilot Extensions อนุญาตให้ลูกค้าใส่ dataset และเครื่องมือภายนอกเข้ากับ Copilot ได้

ยุคของ AI PC มาถึงแล้ว และ Microsoft มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ใน Windows มากมายเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้

ในงานประชุม Build ประจำปี Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ได้เปิดเผยความสามารถ AI ใหม่ ๆ และที่ได้รับการปรับปรุงแล้วทุกประเภท ซึ่งกำลังจะมาสู่ PC รุ่นใหม่ในชื่อ Copilot+ คุณต้องการ ChatGPT เพิ่มเติมใช่ไหม? คุณได้มันแล้ว แล้ว "สมองที่สอง" ที่จดจำทุกอย่างที่คุณทำบนคอมพิวเตอร์ของคุณล่ะ? ปรากฏว่าคุณโชคดีแล้ว

มีอัปเดตมากมายที่ต้องพิจารณา แต่เราได้รวบรวมบางส่วนที่คุณจำเป็นต้องรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังให้ความสำคัญกับ AI มากเท่ากับที่ Microsoft ทำอยู่

8.Recall

หนึ่งในการอัปเกรดที่โดดเด่นที่สุดบน Copilot+ PCs รุ่นใหม่คือฟีเจอร์ที่เรียกว่า Recall ซึ่งจะคอยดูทุกสิ่งที่คุณทำและช่วยให้คุณสามารถค้นหาประวัติของคุณโดยใช้ natural language prompts

ลองนึกภาพเหมือนกับ browser history สำหรับแอปทั้งหมดของคุณ แต่มันจะถ่ายภาพหน้าจอ (screenshots) ด้วย ช่วยให้คุณสามารถถามสิ่งต่างๆ เช่น "ใครแชร์ meme นั้นบน Facebook feed ของฉัน?" แล้ว AI assistant จะหาช่วงเวลาที่คุณกำลังพูดถึงให้คุณ นอกจากนี้ Recall ยังทำงานโดยตรงบนอุปกรณ์ของคุณ หมายความว่าข้อมูลส่วนตัวของคุณไม่จำเป็นต้องไปที่ cloud เลย

7.GPT-4 ถูกรวมเข้ากับ Windows

คุณยังจำ demo ที่น่าทึ่งของ OpenAI ได้ไหม ที่เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน พวกเขาโชว์เสียงสุดเซ็กซี่ของ Scarlett Johansson? "voice mode" แบบเดียวกันนั้นจะเป็นหัวใจสำคัญของ experience ใหม่บน Windows คุณจะสามารถพูดคุยกับ PC ของคุณได้ในไม่ช้า และมันจะเข้าใจทั้งคำพูด น้ำเสียง เสียงแวดล้อม และแม้กระทั่งเนื้อหาบนหน้าจอของคุณ

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะกำลังเล่น Minecraft หรือกำลังเข้าร่วม web conference บังคับจาก HR (หรือทั้งสองอย่าง) คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้เวลาไปกับแฟนสาว AI ตลอดเวลา... เอ่อ หมายถึงผู้ช่วยน่ะ

6.Small Language Models (SLMs)

ในงาน keynote ของ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ได้เปิดเผยโมเดล AI ขนาดเล็ก 3 ตัวใหม่ ได้แก่ Phi-3-small, Phi-3-medium และ Phi-3-vision ซึ่งพัฒนาต่อยอดจากโมเดลรุ่นก่อนหน้า จนมาถึงจุดเปลี่ยนที่ฉลาดและมีประสิทธิภาพมากพอที่จะนำไปใช้ในแอปพลิเคชันบน desktop ได้แล้ว

แล้วนี่หมายความว่าอย่างไร? สำหรับพวกเนิร์ดอย่างเรา ๆ ที่เล่น AI มาสักพักแล้ว อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก แต่ยังมีผู้ใช้จำนวนมากที่ยังไม่รู้วิธีใช้งาน ChatGPT ดังนั้น small language models ที่มีขนาดกะทัดรัด ปรับแต่งได้เฉพาะเจาะจง และใช้งานได้รวดเร็วกว่า อาจจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึง AI ได้มากขึ้นในยุค AI craze นี้

5.Copilot Runtime

Copilot Runtime คือ code library ระดับ system ใหม่ล่าสุดสำหรับนักพัฒนา ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คล้ายกับที่ Win32 ปฏิวัติวงการพัฒนา Windows ในปี 1993 ก่อนหน้านั้น การสร้างและดูแลรักษาแอป Windows นั้นทำได้ยากและสับสน แต่ Win32 ได้มอบแพลตฟอร์มที่เป็นมาตรฐานเดียวกันบนเครื่อง Windows ทุกเครื่อง ซึ่งช่วยให้ชีวิตของนักพัฒนาง่ายขึ้นมาก และเป็นผลให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของแอปที่สามารถทำสิ่งที่ซับซ้อนและมีประโยชน์มากขึ้น

ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม ถ้าคุณคิดว่า "AI" เป็นแค่คำฮิตในปี 2024 ก็รอดูได้เลยว่ามันจะถูกใช้ในทุกอย่างตั้งแต่ File Explorer ไปจนถึง Sticky Notes

4.AI Agents

Copilot Studio ช่วยให้คุณสร้าง workflow ที่ซับซ้อนด้วย intelligent agents ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้ smart helpers เหล่านี้เพื่อทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ databases เป็นระยะ เขียน personalized sales emails ตอบกลับ customer support requests และแม้กระทั่งปรับปรุงตามผล feedback ที่ได้รับ

หากคุณกังวลเกี่ยวกับ AI ที่จะมาแย่งงานมนุษย์ นี่คือฟีเจอร์ประเภทที่คุณกลัวพอดี

3. Cocreator for MS Paint

Cocreator เป็นส่วนเสริมของ Microsoft Paint ที่นำเทคโนโลยี Generative AI เข้ามาใช้งาน ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับซอฟต์แวร์ด้านกราฟิกระดับสูงเลยทีเดียว คุณสามารถใช้ AI ช่วยในการทำงานต่างๆ ได้มากมาย เช่น การร่างภาพคร่าวๆ แล้วให้ AI สร้างภาพจากโครงร่างนั้น คุณยังสามารถคัดลอกภาพที่สร้างขึ้นไปวางบน canvas ที่คุณวาดไว้ แล้วทำซ้ำได้อีกด้วย

ฟังดูเหมือนง่าย แต่นั่นคือจุดเด่นของมัน Microsoft ต้องการให้ Cocreator เป็นตัวขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้หากยังไม่ได้ลองใช้ด้วยตัวเอง แต่จาก Demo แล้ว เรียกได้ว่าก็ดูน่าสนใจมากทีเดียว

2.การกรองและการใส่คำบรรยายแบบ Real-time

ลองจินตนาการดูว่าคุณมี AI filters ระดับมืออาชีพสำหรับแอปพลิเคชันวิดีโอคอลทั้งหมดของคุณโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมใดๆ คอมพิวเตอร์ Copilot+ รุ่นใหม่ทำสิ่งนี้ได้โดยอัตโนมัติเนื่องจาก neural processing unit (NPU) ใหม่ที่ถูกรวมเข้ากับชิปเซ็ต Snapdragon Elite X และ Plus ของ Qualcomm เช่นเดียวกับการใส่คำบรรยายเสียง ข้อมูลเสียงทั้งหมดที่เข้าสู่อุปกรณ์จะถูกส่งผ่าน NPU ช่วยให้คุณสามารถเปิดคำบรรยายได้ในทุกภาษา

การอัปเดตนี้ล่าช้ากว่ากำหนดมานาน และหวังว่าในที่สุดเราจะสามารถกำจัด startups นับไม่ถ้วนที่เสนอฟังก์ชันเดียวกันนี้ให้คุณในราคา $5 ต่อเดือนได้

1.ส่วนขยายสำหรับ Copilot 365

หากคุณคิดว่า Microsoft กำลังพยายามผูกขาดทุก vertical ของ AI นาเดลลาได้ประกาศเปิดตัว Copilot Extensions ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถป้อน dataset และเครื่องมือภายนอกให้กับ Copilot ได้ คล้ายกับที่ลูกค้า ChatGPT Pro สามารถทำได้เมื่อสร้าง custom GPT

แนวทางนี้ดูเหมือนจะเป็นการโต้ตอบตามธรรมชาติกับ Apple ซึ่งมักใช้กลยุทธ์ "walled garden" และต้องให้ EU คอยดูแลเพียงเพื่อที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มี USB-C Microsoft กำลังดำดิ่งสู่ AI ด้วยทัศนคติที่เปิดกว้าง อนุญาตให้ลูกค้าสร้างผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มที่พวกเขาชื่นชอบได้อย่างอิสระ ขอบคุณพระเจ้า

ข้อมูลอ้างอิงจาก 8 New Copilot+ Features That You Need To Know