AI แบบ Agentic: เทคโนโลยีอัจฉริยะกำลังมาแรง
เทคโนโลยี AI แบบ Agentic กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูง แตกต่างจาก AI ทั่วไป คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในหลายอุตสาหกรรมในอนาคตอันใกล้
Key takeaway
- AI แบบ Agentic กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการ AI โดยสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงกว่า AI แบบ generative ทั่วไป สามารถจัดการงานที่ซับซ้อนได้โดยอัตโนมัติตั้งแต่ต้นจนจบ
- นักพัฒนากำลังทดลองใช้แนวคิด "routine" และการส่งต่องานระหว่าง agents เพื่อสร้าง AI agents ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ภาษาธรรมชาติในการกำหนดคำสั่ง
- แม้จะมีศักยภาพสูง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองและมีประเด็นด้านจริยธรรมและกฎหมายที่ต้องพิจารณา อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอนาคตอันใกล้
OpenAI บริษัทชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดชื่อ Swarm ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของวงการ AI ที่เรียกว่า agentic AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระ
Swarm เป็นระบบทดลองที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถศึกษาและพัฒนา AI ที่ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้:
1. มี AI หลักทำหน้าที่ประสานงานกับ AI อื่นๆ
2. AI หลายตัวเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย
3. AI สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้
4. AI ทำงานร่วมกันแบบประมวลผลแบ่งงาน
5. AI ทำงานได้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนควบคุม
6. AI สื่อสารด้วยภาษามนุษย์ได้
ชื่อ Swarm อาจหมายถึงลักษณะการทำงานร่วมกันของ AI จำนวนมากเหมือนฝูงผึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในการทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
OpenAI ได้เผยแพร่ตัวอย่างการใช้งาน Swarm บน GitHub และบล็อกของบริษัท ผู้ที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม Python และการใช้ API ของ AI สามารถทดลองใช้งานได้
การเปิดตัว Swarm ครั้งนี้ นับเป็นพัฒนาการสำคัญของเทคโนโลยี AI ที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจนำไปสู่การสร้างระบบ AI ที่ฉลาดและทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้นในอนาคตบทความข่าวไอที: AI Agents กับการพัฒนาระบบบริการลูกค้าอัตโนมัติ
บริษัท Widget Corporation กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการบริการลูกค้าด้วยการนำ generative AI มาใช้พัฒนาระบบ Customer Support Agent อัตโนมัติ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าปัจจุบัน ระบบนี้จะทำหน้าที่สอบถามปัญหา วิเคราะห์ และหาทางแก้ไขให้กับลูกค้า หากไม่สามารถแก้ไขได้ ลูกค้าสามารถคืนสินค้าและขอเงินคืนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
แทนที่จะใช้เวลานานในการเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม บริษัทเลือกใช้เทคโนโลยี agentic AI โดยกำหนด primary agent เป็น Customer Support Agent ผ่านการใช้ภาษาธรรมชาติ ซึ่งทำให้การพัฒนาระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างการกำหนด Customer Support Agent มีดังนี้:
"คุณคือ customer support agent ของ Widget Corporation"
"ปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานต่อไปนี้:
1. สอบถามลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจปัญหา
2. ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูล WidgetSys เพื่อดูปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
3. วิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหา
4. นำเสนอวิธีแก้ไขให้ลูกค้าและรับฟังความคิดเห็น
5. หากลูกค้าประสงค์จะคืนสินค้า ให้ส่งต่อไปยัง Returns And Refunds Agent"
นอกจากนี้ยังมีการกำหนด Returns And Refunds Agent เพื่อดูแลกระบวนการคืนสินค้าและคืนเงินอย่างเป็นระบบ
การใช้ AI agents นี้มีข้อดีคือสามารถพัฒนาได้ง่ายผ่านภาษาธรรมชาติ แต่ก็มีประเด็นที่ต้องระมัดระวัง เช่น ความครอบคลุมของขั้นตอนการทำงาน ความชัดเจนของภาษาที่ใช้ และความเป็นไปได้ที่ AI อาจให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (hallucinate)
ล่าสุด OpenAI ได้นำเสนอแนวคิด Swarm ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับ AI agents โดยใช้แนวคิด "routine" เพื่อกำหนดชุดขั้นตอนการทำงานอย่างเป็นระบบ
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และยังมีประเด็นด้านจริยธรรมและกฎหมายที่ต้องพิจารณา เช่น การควบคุมไม่ให้ AI ทำงานผิดพลาดหรือเป็นอันตราย
Why it matters
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.forbes.com/sites/lanceeliot/2024/10/15/openai-newly-released-ai-product-swarm-swiftly-brings-agentic-ai-into-the-real-world/