บันทึกความฝันของมนุษย์ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากAI

เทคโนโลยี AI และ Mind-Reading เปิดประตูสู่โลกแห่งความฝัน พร้อมเผยความลับในจิตใต้สำนึกของมนุษย์

บันทึกความฝันของมนุษย์ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากAI

Key takeaway

  • เทคโนโลยี AI ร่วมกับเครื่อง fMRI สามารถบันทึกและวิเคราะห์กิจกรรมสมองขณะหลับได้ แต่ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น
  • การสร้าง AI ที่สามารถทำนายความฝันได้อย่างแม่นยำ ต้องอาศัยข้อมูล fMRI ที่ละเอียดและความสามารถในการจดจำความฝันของอาสาสมัคร
  • ในอนาคตอันใกล้ อาจมีการพัฒนาเครื่อง fMRI แบบพกพาที่สามารถสแกนความฝัน และใช้ Generative AI สร้างวิดีโอจำลองความฝันได้
  • แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่ AI ไม่สามารถอ่านความคิดได้จริง และผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ใช่การทำซ้ำความฝันที่แม่นยำ 100%

เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ร่วมกับเครื่อง Mind-Reading คือสิ่งที่เราต้องการเพื่อทำซ้ำประสบการณ์ที่เรามีในความฝัน งานวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางในญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของวิธีการนี้ในปี 2023 นักวิจัยบันทึกกิจกรรมของสมองจากผู้เข้าร่วมงานวิจัยที่กำลังนอนหลับ โดยใช้เครื่อง functional magnetic resonance imaging (fMRI) จากนั้นใช้ machine learning เพื่อจำแนกวัตถุที่รับรู้ได้ เช่น กุญแจ คน หรือเก้าอี้ จากกิจกรรมดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้มุ่งเน้นไปที่ช่วงเริ่มต้นของการนอนหลับ ซึ่งเป็นสองขั้นตอนแรกที่เรามีภาพนิมิต (hallucinations) และไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับความฝันเลย พวกเขาเลือกวิธีนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยสามารถตื่นขึ้นมาและอธิบายสิ่งที่เห็นได้อย่างรวดเร็ว

ในการทำซ้ำความฝันของเรา เราต้องการข้อมูล fMRI อย่างละเอียดจากอาสาสมัคร เพื่อนำมาฝึก AI อาสาสมัครต้องมีความสามารถในการจดจำความฝันของตนเองอย่างละเอียด เพื่อให้เรารู้ว่าการทำนายนั้นแม่นยำเพียงใด ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการบันทึกความฝัน และยังไม่แน่ชัดว่าข้อมูลประเภทนี้จะสร้างขึ้นได้อย่างน่าเชื่อถือหรือไม่

แต่เรามีจุดเริ่มต้นที่ดีในด้านที่เกี่ยวข้องแล้ว มีการศึกษาวิจัยที่สร้างชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของกิจกรรมสมองจาก fMRI ในขณะที่ผู้เข้าร่วมที่มีสติดูวิดีโอนับพัน ฟังเสียงพูด และอ่านข้อความ โดยใช้ AI ที่ฝึกบนชุดข้อมูลเหล่านี้ เราสามารถทำนายได้แล้วว่าคนตื่นอาจกำลังดูหรืออ่านอะไรอยู่

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะสร้าง AI ดังกล่าว และมีเครื่อง fMRI แบบพกพาที่ใช้สแกนความฝันของคุณ และสามารถแสดงผลลัพธ์ด้วย Generative AI เช่น Sora จาก OpenAI และ Lumiere จาก Google DeepMind สามารถสร้างวิดีโอที่คล้ายความฝันได้ แล้วใช้ AI วิเคราะห์ความฝันเพื่อให้คำอธิบายข้อความที่ชัดเจน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้วิดีโอที่แสดงลำดับความฝันที่น่าจะเป็นไปได้จากบุคคลนั้น

แต่ก็มีสิ่งที่ต้องระวังคือ AI เหล่านี้ไม่ได้อ่านความคิดจริงๆ มันเพียงแค่จับคู่รูปแบบของกิจกรรมในสมองกับภาพที่เคยเห็นมาก่อน และ Generative AI จะไม่รู้เลยว่าวิดีโอของมันคล้ายกับความฝันของคุณหรือไม่ มันจะเรียงภาพเข้าด้วยกัน บางทีอาจมีเรื่องราวเบื้องต้น ดังนั้นแม้ว่าผลลัพธ์จะดูคล้ายความฝันอย่างน่าไม่น่าเชื่อ และอาจมีองค์ประกอบหลายอย่างเหมือนกับความฝันเดิม แต่มันจะไม่ใช่การทำซ้ำที่แม่นยำ

Why it matters

💡
ข่าวนี้น่าสนใจเพราะเป็นการนำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดในการใช้ AI และเทคโนโลยี mind-reading เพื่อบันทึกความฝัน ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์สนใจมานาน บทความนี้อธิบายถึงความเป็นไปได้ ข้อจำกัด และความท้าทายของเทคโนโลยีนี้ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้อ่านจะได้เข้าใจถึงศักยภาพและข้อควรระวังของเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้

ข้อมูลอ้างอิงจาก You'll soon be able to record your dreams. Here's how


Read more

Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ในการฝึกฝน AI มานานกว่า 17 ปี

News

Meta เผยใช้ข้อมูลโซเชียลฝึก AI มา 17 ปี

Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโพสต์สาธารณะบน Facebook และ Instagram มาฝึกระบบ AI ของบริษัทตั้งแต่ปี 2550 สร้างความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีตัวเลือกปฏิเสธการเก็บข้อมูลในหลายประเทศ

By