ภาพยนตร์ "Here" ใช้ AI ปรับอายุนักแสดงแบบ real-time

TriStar Pictures เปิดตัวภาพยนตร์ "Here" ใช้ AI ปรับอายุนักแสดงนำแบบเรียลไทม์ตลอด 60 ปี นับเป็นก้าวสำคัญของการใช้ AI ในวงการภาพยนตร์ แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องจริยธรรม แต่เทคโนโลยีนี้กำลังเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้วงการ

ภาพยนตร์ "Here" ใช้ AI ปรับอายุนักแสดงแบบ real-time

Key takeaway

  • ภาพยนตร์เรื่อง "Here" ใช้เทคโนโลยี real-time generative AI face transformation ในการแสดงนักแสดงนำอย่าง Tom Hanks และ Robin Wright ในช่วงเวลา 60 ปี โดยใช้งบประมาณเพียง 50 ล้านดอลลาร์
  • เทคโนโลยีนี้พัฒนาโดยบริษัท Metaphysic ซึ่งสามารถสร้าง face transformations แบบทันทีระหว่างการถ่ายทำ โดยไม่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำ post-production แบบ CGI ดั้งเดิม
  • แม้จะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการใช้ AI ในวงการภาพยนตร์ แต่เทคโนโลยีนี้กำลังถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น Furiosa: A Mad Max Saga และ Alien: Romulus ที่จะเข้าฉายในปี 2567

TriStar Pictures เปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง "Here" เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ กำกับโดย Robert Zemeckis โดยใช้เทคโนโลยี real-time generative AI face transformation เพื่อแสดงนักแสดงนำอย่าง Tom Hanks และ Robin Wright ในช่วงเวลา 60 ปี นับเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องแรกๆ ที่ใช้ visual effects ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายภาพปี 2557 เล่าเรื่องราวในห้องนั่งเล่นรัฐนิวเจอร์ซีย์ผ่านหลายยุคสมัย แทนที่จะใช้นักแสดงหลายคนเพื่อแสดงในวัยต่างๆ ทีมผู้สร้างใช้ AI ปรับเปลี่ยนลักษณะของ Hanks และ Wright ตลอดทั้งเรื่อง

เทคโนโลยี de-aging นี้พัฒนาโดย Metaphysic บริษัท visual effects ที่สร้าง real-time face swapping และ aging effects ระหว่างการถ่ายทำ ทีมงานสามารถดูจอภาพสองจอพร้อมกัน: จอหนึ่งแสดงลักษณะจริงของนักแสดง และอีกจอหนึ่งแสดงนักแสดงในวัยที่ต้องการในฉากนั้นๆ

Metaphysic พัฒนาระบบปรับเปลี่ยนใบหน้าโดยฝึก custom machine-learning models จากภาพยนตร์ก่อนหน้าของ Hanks และ Wright รวมถึงชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของการเคลื่อนไหวใบหน้า พื้นผิวผิว และลักษณะภายใต้สภาพแสงและมุมกล้องที่หลากหลาย โมเดลที่ได้สามารถสร้าง face transformations แบบทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำ post-production แบบ CGI ดั้งเดิม

ต่างจาก aging effects แบบเดิมที่ต้องปรับแต่งทีละเฟรม วิธีการของ Metaphysic สร้างการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยวิเคราะห์ facial landmarks และ mapping ไปยังรูปแบบอายุที่ได้รับการฝึกฝนมา

Zemeckis กล่าวกับ The New York Times ว่า "ไม่สามารถสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เมื่อสามปีก่อน" visual effects แบบดั้งเดิมสำหรับการปรับเปลี่ยนใบหน้าในระดับนี้จะต้องใช้ศิลปินหลายร้อยคนและงบประมาณที่สูงกว่ามาก ใกล้เคียงกับต้นทุนของภาพยนตร์ Marvel ทั่วไป

แม้ว่านี่ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ใช้เทคนิค AI เพื่อ de-age นักแสดง แต่วิธีการของ Metaphysic แตกต่างจากเทคนิคอื่นๆ เช่น ระบบ Flux ของ ILM ที่ใช้ใน Indiana Jones and the Dial of Destiny โดยโมเดล AI ของ Metaphysic ประมวลผลการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมและแสดงผลลัพธ์ระหว่างการถ่ายทำ

ภาพยนตร์เรื่อง Here เข้าฉายในขณะที่สตูดิโอใหญ่ๆ กำลังสำรวจการใช้งาน AI นอกเหนือจาก visual effects อย่างไรก็ตาม สัญญาของสมาคมต่างๆ ในปัจจุบันมีข้อจำกัดที่เข้มงวดในการใช้ AI ในกระบวนการสร้างสรรค์ เช่น การเขียนบท

แม้จะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในวงการภาพยนตร์ แต่เทคโนโลยีของ Metaphysic ก็ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์อีกสองเรื่องที่จะเข้าฉายในปี 2567 ได้แก่ Furiosa: A Mad Max Saga และ Alien: Romulus โดยทั้งสองกรณีต้องได้รับการอนุมัติจากทายาทภายใต้กฎหมายใหม่ของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ควบคุมการสร้าง AI ของนักแสดง

แม้จะมีข้อโต้แย้งและความกังวลจากบางฝ่าย แต่ฮอลลีวูดก็ดูเหมือนจะหาวิธีสร้างภาพที่ท้าทายความตายและอายุบนจอภาพยนตร์ได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเงินทุนเพียงพอ

Why it matters

💡 ข่าวนี้น่าสนใจสำหรับผู้ที่ติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพราะเป็นการใช้ AI ในการสร้าง visual effects แบบ real-time ครั้งแรกในภาพยนตร์ฮอลลีวูดขนาดใหญ่ เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสใหม่ในการเล่าเรื่องและลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมและประเด็นทางจริยธรรมที่เกิดขึ้นจากการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.wired.com/story/here-movie-de-age-tom-hanks-generative-ai/

Read more

ภาพรีแบรนด์ Google Bard เป็น Gemini พร้อมโลโก้ Google และไอคอน AI เช่น แปลภาษาและเอกสาร สะท้อนก้าวใหม่ของ Google

news

Google Gemini คืออะไร? AI model และ chatbot ทำงานอย่างไรในปี 2024

Google เปลี่ยนชื่อ AI จาก Bard เป็น Gemini พร้อมอัพเกรดความสามารถเพื่อแข่งขันกับ ChatGPT และ Claude ในตลาด AI ที่กำลังเติบโต สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง

By
NVIDIA เปิดตัว AI ใหม่เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์ ภาพแสดงหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์บนคอมพิวเตอร์ สื่อถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย

news

NVIDIA เปิดตัว AI ใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การฝึกหุ่นยนต์ลักษณะมนุษย์

NVIDIA เปิดตัวระบบ AI ใหม่เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการหุ่นยนต์ แม้จะมีความกังวลเรื่องจริยธรรมและความเสี่ยง แต่ก็เป็นพัฒนาการที่น่าติดตาม

By
หญิงอเมริกันนั่งทำงานอย่างเครียด มีธงชาติสหรัฐฯ และคำว่า "Task Automation" สื่อถึงปัญหางานล้นและความคาดหวังให้ AI มาช่วย

news

นักคิดเชิงสร้างสรรค์พึ่งพา Generative AI มากขึ้นเมื่อภาระงานเพิ่มสูงขึ้น

รายงานล่าสุดเผยคนทำงานในสหรัฐฯ เผชิญปัญหางานล้น ปริมาณงานเพิ่มขึ้น 31% ในปีที่ผ่านมา หลายคนหันมาใช้ AI ช่วยงาน คาดว่าจะประหยัดเวลาได้ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมรับมือกับการใช้ AI ของพนักงาน

By
Google เปิดตัว AI Jarvis บน Chrome Store หน้าจอมือถือแสดงอินเตอร์เฟซการพิมพ์ พูด หรือแชร์ภาพ

news

Google ของ AI agent ชื่อ Jarvis หลุดในร้านค้า Chrome

Google เผยแพร่ส่วนขยาย Chrome ชื่อ Jarvis โดยไม่ตั้งใจ สามารถทำงานอัตโนมัติเช่นจองและซื้อของชำ โดยวิเคราะห์จาก screenshots คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมหรือหลัง Gemini 2.0 ในอีกราว 1 เดือน สร้างความฮือฮาในวงการเทคโนโลยี

By