ผลการทดลองเผยศักยภาพ AI สามารถเป็น CEO ได้

ผลการทดลองล่าสุดเผยว่า AI มีศักยภาพที่น่าทึ่งในบทบาท CEO โดยสามารถเอาชนะมนุษย์ในหลายด้าน แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ AI ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในอนาคต

ผลการทดลองเผยศักยภาพ AI สามารถเป็น CEO ได้

Key takeaway

  • GPT-4o แสดงประสิทธิภาพเหนือกว่ามนุษย์ในหลายด้านของการจำลองบทบาท CEO เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การควบคุมต้นทุน และการตอบสนองต่อสัญญาณตลาด แต่ยังมีข้อจำกัดในการรับมือกับเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้
  • การใช้ AI เป็น digital twin ขององค์กรในสภาพแวดล้อมจำลอง (dojo) อาจเป็นแนวทางในอนาคตเพื่อทดสอบกลยุทธ์และการตัดสินใจ โดยไม่ต้องเสี่ยงในโลกความเป็นจริง
  • จุดแข็งของ Generative AI ไม่ใช่การแทนที่ CEO มนุษย์ แต่เป็นการเสริมการตัดสินใจ โดยช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและจำลองสถานการณ์ซับซ้อน เพื่อให้ผู้นำมนุษย์มุ่งเน้นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และจริยธรรมได้ดียิ่งขึ้น

AI สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง CEO ได้จริงหรือ? ผลการทดลองล่าสุดเผยศักยภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

แม้แต่ก่อนหน้านี้ แนวคิดที่ว่า AI จะมาแทนที่ CEO อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เนื่องจาก AI ยังมีข้อบกพร่องสำคัญ เช่น การสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และมีแนวโน้มที่จะหลุดออกจากงานระหว่างทาง ซึ่งไม่ใช่คุณสมบัติของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในบทบาทที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย

อย่างไรก็ตาม generative AI กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ต้องการทั้งความแม่นยำและความคิดสร้างสรรค์ เช่น AlphaFold ที่ปฏิวัติการพับโปรตีน และ Codex ของ OpenAI ที่สามารถสร้างโปรแกรมซอฟต์แวร์จากคำสั่งง่ายๆ ของมนุษย์

เพื่อทดสอบศักยภาพของ AI ในฐานะ CEO จึงมีการทดลองระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม 2567 โดยมีผู้เข้าร่วม 344 คน ทั้งนักศึกษาและผู้บริหารระดับสูง รวมถึง GPT-4o ซึ่งเป็น large language model ล่าสุดของ OpenAI ผู้เข้าร่วมได้ใช้งานการจำลองแบบเกมที่จำลองความท้าทายในการตัดสินใจของ CEO โดยมีตัวชี้วัดต่างๆ ติดตามคุณภาพของการตัดสินใจ

ผลการทดลองพบว่า GPT-4o มีประสิทธิภาพเหนือกว่าผู้เข้าร่วมที่เป็นมนุษย์ในเกือบทุกตัวชี้วัด ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ การควบคุมต้นทุน และการตอบสนองต่อสัญญาณตลาด อย่างไรก็ตาม GPT-4o มีปัญหากับเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ เช่น การล่มสลายของตลาดในช่วงการระบาดของโควิด-19 ทำให้ถูกไล่ออกโดยบอร์ดเสมือนจริงเร็วกว่านักศึกษาที่มีผลงานดีที่สุด

แม้จะมีข้อจำกัด แต่ GPT-4o ก็แสดงผลงานได้อย่างน่าประทับใจ สามารถต่อกรกับผู้ที่ดีและฉลาดที่สุดในกลุ่มผู้เข้าร่วมได้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการละเลย generative AI ในกลยุทธ์ขององค์กรไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ต้องมีข้อมูลคุณภาพสูง และต้องมีการกำกับดูแลที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสี่ยง

ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็น LLM agents ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับเป็น digital twin ขององค์กร โดยจะถูกฝึกฝนใน "dojo" หรือสภาพแวดล้อมจำลองที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับบริษัทนั้นๆ และระบบนิเวศของมัน บริษัท Strategize.inc กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อมอบความสามารถดังกล่าวให้กับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล

การปรากฏตัวของ "artificial CEOs" อาจส่งผลกระทบต่อวงการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์แบบดั้งเดิมและฝ่ายกลยุทธ์ภายในองค์กร บริษัทอย่าง McKinsey อาจพบว่าบริการของตนถูกเสริมหรือแม้กระทั่งถูกแทนที่ด้วยระบบ AI ที่ปรับแต่งมาเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละราย

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือ แม้ AI จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ CEO ได้ทั้งหมดในตลาดที่ให้บริการมนุษย์ แต่มันสามารถพัฒนากระบวนการวางแผนเชิงกลยุทธ์และช่วยลดความผิดพลาดที่มีต้นทุนสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันเราได้เห็น AI รุ่นแรกขับเคลื่อน micro-strategies ในระดับแผนกของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Google ผ่านงานต่างๆ เช่น price matching และ ad inventory management ซึ่งผสานกับ learning และ network effects อันทรงพลัง กลายเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ Generative AI คือพัฒนาการที่เป็นธรรมชาติถัดไปของโมเดลนี้: meta-AI ที่ทำหน้าที่เสมือน CEO แข่งขันและร่วมมือกับ AI อื่นๆ ใน digital twin sandbox ช่วยให้ CEO ที่เป็นมนุษย์ตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น

จุดแข็งที่สุดของ Generative AI ไม่ใช่การแทนที่ CEO มนุษย์ แต่เป็นการเสริมการตัดสินใจ โดยอัตโนมัติการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลและจำลองสถานการณ์ซับซ้อน AI ช่วยให้ผู้นำมนุษย์สามารถมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ความเข้าอกเข้าใจ และการตัดสินใจเชิงจริยธรรม ซึ่งเป็นด้านที่มนุษย์มีความเชี่ยวชาญ

ความท้าทายที่แท้จริงสำหรับ CEO มนุษย์คือการยึดติดกับความเชื่อที่ว่าตนเองเท่านั้นที่ควบคุมทุกอย่างได้ในอนาคต อนาคตของความเป็นผู้นำคือการผสมผสาน ที่ AI เสริมการทำงานของ CEO มนุษย์ในการมุ่งเน้นวิสัยทัศน์ ค่านิยม และความยั่งยืนระยะยาว CEO ที่จะประสบความสำเร็จคือผู้ที่เชี่ยวชาญในการผสมผสานนี้ โดยใช้ประโยชน์จาก AI ในฐานะพันธมิตรในการตัดสินใจ ไม่ใช่คู่แข่ง

Why it matters

💡
บทความนี้นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับศักยภาพของ AI ในการเป็น CEO ผ่านการทดลองที่ใช้ GPT-4o ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ถึงความสามารถและข้อจำกัดของ AI ในบทบาทผู้นำองค์กร รวมถึงแนวโน้มการใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมการตัดสินใจของ CEO มนุษย์ในอนาคต บทความยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการผสมผสานระหว่างความสามารถของ AI และทักษะมนุษย์ในการบริหารองค์กรยุคใหม่ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้บริหารและผู้สนใจด้านเทคโนโลยี AI

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://hbr.org/2024/09/ai-can-mostly-outperform-human-ceos

Read more

ภาพรีแบรนด์ Google Bard เป็น Gemini พร้อมโลโก้ Google และไอคอน AI เช่น แปลภาษาและเอกสาร สะท้อนก้าวใหม่ของ Google

news

Google Gemini คืออะไร? AI model และ chatbot ทำงานอย่างไรในปี 2024

Google เปลี่ยนชื่อ AI จาก Bard เป็น Gemini พร้อมอัพเกรดความสามารถเพื่อแข่งขันกับ ChatGPT และ Claude ในตลาด AI ที่กำลังเติบโต สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง

By
NVIDIA เปิดตัว AI ใหม่เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์ ภาพแสดงหุ่นยนต์ที่ทำงานร่วมกับมนุษย์บนคอมพิวเตอร์ สื่อถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย

news

NVIDIA เปิดตัว AI ใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การฝึกหุ่นยนต์ลักษณะมนุษย์

NVIDIA เปิดตัวระบบ AI ใหม่เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์มนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการหุ่นยนต์ แม้จะมีความกังวลเรื่องจริยธรรมและความเสี่ยง แต่ก็เป็นพัฒนาการที่น่าติดตาม

By
ภาพคู่รักกอดกันในห้องนั่งเล่น ฉากจากหนัง “Here” ที่ใช้ AI ปฏิวัติเทคโนโลยีการถ่ายทำ สื่อถึงนวัตกรรมในวงการภาพยนตร์

news

ภาพยนตร์ "Here" ใช้ AI ปรับอายุนักแสดงแบบ real-time

TriStar Pictures เปิดตัวภาพยนตร์ "Here" ใช้ AI ปรับอายุนักแสดงนำแบบเรียลไทม์ตลอด 60 ปี นับเป็นก้าวสำคัญของการใช้ AI ในวงการภาพยนตร์ แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องจริยธรรม แต่เทคโนโลยีนี้กำลังเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้วงการ

By
หญิงอเมริกันนั่งทำงานอย่างเครียด มีธงชาติสหรัฐฯ และคำว่า "Task Automation" สื่อถึงปัญหางานล้นและความคาดหวังให้ AI มาช่วย

news

นักคิดเชิงสร้างสรรค์พึ่งพา Generative AI มากขึ้นเมื่อภาระงานเพิ่มสูงขึ้น

รายงานล่าสุดเผยคนทำงานในสหรัฐฯ เผชิญปัญหางานล้น ปริมาณงานเพิ่มขึ้น 31% ในปีที่ผ่านมา หลายคนหันมาใช้ AI ช่วยงาน คาดว่าจะประหยัดเวลาได้ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมรับมือกับการใช้ AI ของพนักงาน

By