Meta เตรียมเปิดตัว Llama 4 โมเดลภาษาขนาดใหญ่รุ่นใหม่
เมตาเตรียมเปิดตัว Llama 4 โมเดล AI รุ่นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม 10 เท่า พร้อมฟีเจอร์การทำงานแบบ AI Agent และการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ พร้อมลงทุนสร้าง Data Center รองรับการพัฒนา

Key takeaway
- Llama 4 จะเป็นโมเดล AI แบบ Open-source รุ่นใหม่ที่มาพร้อมความสามารถด้านการใช้เหตุผลและการทำงานแบบ AI Agent โดยจะต้องใช้พลังการประมวลผลมากกว่ารุ่นที่ 3 ถึง 10 เท่า
- เมตามีแผนลงทุนครั้งใหญ่ในการสร้าง AI Data Center ขนาด 2 กิกะวัตต์ พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อรองรับการพัฒนา AI ในอนาคต
- การพัฒนา Llama 4 จะมุ่งเน้นให้ AI สามารถทำงานได้อย่างอิสระ เขียนโค้ด และแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันในวงการ AI มากขึ้น โดยเฉพาะกับคู่แข่งอย่าง Alphabet และ OpenAI
Meta เตรียมเปิดตัว Llama 4 โมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบ Open-source รุ่นใหม่ล่าสุดในปีนี้ โดยจะมาพร้อมความสามารถด้านการใช้เหตุผลและการทำงานแบบ AI Agent ที่สามารถใช้เว็บเบราว์เซอร์และเครื่องมือต่างๆ ได้
หลังจากเปิดตัว Llama 3.3 70B เวอร์ชันล่าสุดในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ เมตากำลังเดินหน้าพัฒนา Llama 4 ที่จะมาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่
Mark Zuckerberg CEO ของเมตาเผยว่า การเทรน Llama 4 จะต้องใช้พลังการประมวลผลมากกว่ารุ่นที่ 3 ถึง 10 เท่า และบริษัทเลือกที่จะลงทุนสร้าง Computing Capacity ล่วงหน้าเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต
ที่ผ่านมาเมตาได้เปิดตัว Llama 3 ที่มี Parameters 8 พันล้านในเดือนเมษายน 2024 และเพิ่มขึ้นเป็น 405 พันล้าน Parameters ในการอัปเกรดเดือนสิงหาคม
Clara Shih หัวหน้าฝ่าย Business AI ของเมตาระบุว่า บริษัทเล็งเห็นแนวโน้มที่ธุรกิจจะนำ AI Agents ไปใช้ในการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น
เพื่อรองรับการพัฒนา เมตาประกาศแผนสร้าง AI Data Center ขนาด 2 กิกะวัตต์แห่งใหม่ พร้อมทุ่มงบประมาณสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI
การพัฒนา Llama 4 ให้มีความสามารถในการทำงานอย่างอิสระ เขียนโค้ด และแก้ปัญหาได้ จะยกระดับการแข่งขันในวงการ AI และคาดว่าจะกระตุ้นให้บริษัทคู่แข่งอย่าง Alphabet และ OpenAI เร่งพัฒนาฟีเจอร์ในลักษณะเดียวกัน
Why it matters
💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ติดตามวงการ AI และเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นการเปิดเผยแผนการพัฒนา Llama 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบ Open-source ที่ทรงพลังที่สุดของเมตา โดยจะมาพร้อมความสามารถใหม่ในการทำงานแบบ AI Agent และการใช้เหตุผลขั้นสูง พร้อมการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนา AI ในระดับโลกและการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้อย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.tomsguide.com/ai/llama-4-will-be-metas-next-generation-ai-model-heres-what-to-expect