ไมโครซอฟท์วางแผนให้ Copilot สามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้นปี 2025

Microsoft ประกาศแผนผนวก Phi Silica เข้าสู่ Windows runtime ภายในไตรมาสนี้ เป็นส่วนหนึ่งของ Copilot โดยใช้โมเดลขนาด 3.3 พันล้านพารามิเตอร์ เน้นการประมวลผล AI แบบ local เพื่อความเป็นส่วนตัวที่ดีกว่า

ไมโครซอฟท์วางแผนให้ Copilot สามารถทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ต้นปี 2025

Key takeaway

  • Microsoft กำลังจะผนวก Phi Silica ซึ่งเป็น Small Language Model (SLM) เข้ากับ Windows runtime และ Copilot ภายในไตรมาสนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบ local บนเครื่อง Windows
  • Phi Silica ใช้โมเดลขนาด 3.3 พันล้านพารามิเตอร์ ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานบนเครื่องได้โดยตรง ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลได้ดีกว่าการประมวลผลบนคลาวด์
  • ฟีเจอร์ Windows Recall และฟีเจอร์ AI อื่นๆ จะพึ่งพาการทำงานของ SLM มากขึ้นในอนาคต แม้ว่าจะมีความซับซ้อนน้อยกว่า LLM แต่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์

Microsoft เตรียมผนวก Phi Silica เข้าสู่ระบบ Windows runtime ภายในไตรมาสนี้ โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของ Copilot ตามที่ผู้บริหารระดับสูงฝ่าย Windows devices ได้เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

Phi Silica เปิดตัวครั้งแรกในงาน Build conference ที่เมืองซีแอตเทิลเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ในฐานะ Small Language Model (SLM) ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ Large Language Model (LLM) บนระบบคลาวด์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา Copilot เวอร์ชันที่ทำงานแบบ local บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows

แม้ว่า LLM จะมีความเร็วและแม่นยำสูงกว่า แต่จำเป็นต้องทำงานบนคลาวด์และอาจมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับการใช้งานแบบเต็มรูปแบบ ในขณะที่ SLM สามารถประมวลผล AI chatbot และแอปพลิเคชันอื่นๆ บนเครื่องได้โดยตรง แม้จะมีความซับซ้อนน้อยกว่าและต้องใช้ NPU ที่รองรับ แต่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลสู่คลาวด์ได้ดีกว่า

Microsoft เผยว่าฟีเจอร์ Windows Recall และฟีเจอร์ AI อื่นๆ จะพึ่งพาการทำงานของ SLM มากขึ้นในอนาคต โดย Phi Silica ใช้โมเดลขนาด 3.3 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้มีทั้งความแม่นยำและความเร็วที่ดี แม้จะเป็นโมเดลภาษาขนาดเล็ก

ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวนำเสนอโดย Pavan Davuluri รองประธานฝ่าย Windows และอุปกรณ์ของ Microsoft บนเวทีงาน Intel CES 2025

Why it matters

💡 ข่าวนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งาน Windows และผู้ที่สนใจเทคโนโลยี AI เพราะเป็นการเปิดเผยแผนการผนวก Phi Silica เข้าสู่ Windows runtime ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของ AI บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเฉพาะการประมวลผล AI แบบ local ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าการประมวลผลบนคลาวด์ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์การใช้งาน Windows Copilot ในอนาคตอันใกล้

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.pcworld.com/article/2569111/microsoft-wants-to-run-copilot-locally-on-your-pc-starting-early-2025.html

Read more

สู่ยุคใหม่ของ Physical AI: การพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกกายภาพ

news

สู่ยุคใหม่ของ Physical AI: การพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกกายภาพ

ก้าวใหม่ของวงการ AI กับการพัฒนา Physical AI ที่มุ่งเน้นให้ AI เข้าใจโลกกายภาพอย่างลึกซึ้ง ผ่านการเรียนรู้และทดลองด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโลกจริง ทั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ

By
ChatGPT ทำให้ Siri โง่ลงจริงหรือ?

news

ChatGPT ทำให้ Siri โง่ลงจริงหรือ?

แอปเปิลเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นหลังผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri ใน iOS 18 ผลทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพแย่ลงกว่าเดิม ตอบคำถามผิดพลาดและไม่แม่นยำ สะท้อนความท้าทายในการพัฒนา AI Assistant

By
82% ขององค์กรระบุว่าการขาดความโปร่งใสของ AI นำไปสู่ปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

news

82% ขององค์กรระบุว่าการขาดความโปร่งใสของ AI นำไปสู่ปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ผลสำรวจชี้องค์กร 82% กังวลปัญหา digital chaos จากความซับซ้อนของระบบอัตโนมัติ ต้องจัดการจุดเชื่อมต่อเฉลี่ย 50 จุด เสี่ยงปัญหา compliance และความล้มเหลวของกระบวนการหลัก

By
ทรัมป์เปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐาน Stargate AI

news

ทรัมป์เปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐาน Stargate AI

อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เปิดตัวโครงการ Stargate เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐฯ ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล ระบบประมวลผล การเทรน AI และ Edge Computing

By