สู่ยุคใหม่ของ Physical AI: การพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกกายภาพ

ก้าวใหม่ของวงการ AI กับการพัฒนา Physical AI ที่มุ่งเน้นให้ AI เข้าใจโลกกายภาพอย่างลึกซึ้ง ผ่านการเรียนรู้และทดลองด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโลกจริง ทั้งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่างๆ

สู่ยุคใหม่ของ Physical AI: การพัฒนา AI ที่เข้าใจโลกกายภาพ

Key takeaway

  • Physical AI เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก Generative AI โดยมุ่งเน้นให้ AI สามารถเข้าใจและทำงานในโลกกายภาพได้ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่การเรียนรู้จากข้อมูลตัวอักษรเพียงอย่างเดียว
  • การพัฒนา Physical AI มีแนวทางหลัก 2 รูปแบบ คือ Generative AI physicality by words (เพิ่มข้อมูลด้านกายภาพในการเทรน) และ Generative AI physicality by deeds (เรียนรู้ผ่านการควบคุมอุปกรณ์จริง) ซึ่งสามารถผสมผสานกับ AI รูปแบบอื่นๆ ได้
  • ความท้าทายสำคัญของ Physical AI คือการพัฒนาให้ AI เข้าใจกฎเกณฑ์ทางกายภาพผ่านประสบการณ์จริง และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เนื่องจากสามารถส่งผลกระทบต่อโลกกายภาพได้โดยตรง

Physical AI กำลังเปิดมิติใหม่ในวงการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ต่อยอดความสำเร็จจาก Generative AI และ Agentic AI โดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้ AI สามารถเรียนรู้และเข้าใจโลกกายภาพได้อย่างลึกซึ้ง

การพัฒนาดังกล่าวจะเพิ่มขีดความสามารถของ AI ให้ครอบคลุมการทำงานในอุปกรณ์และกลไกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ทั่วไป หุ่นยนต์เฉพาะทาง หุ่นยนต์มนุษย์ ยานยนต์ไร้คนขับ รวมถึงเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการเดิน คลาน วิ่ง เลื้อย กระโดด และจับสิ่งของ ภายใต้ข้อจำกัดทางกายภาพของโลกจริง

แม้ปัจจุบัน Generative AI อย่าง ChatGPT จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล แต่ยังขาดประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้และทดลองด้วยตนเอง ต่างจากมนุษย์และสัตว์ที่เรียนรู้กฎเกณฑ์ต่างๆ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง Physical AI จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยลดช่องว่างนี้ และพัฒนาให้ AI สามารถทำงานในโลกจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่า ChatGPT และ Generative AI จะสร้างปรากฏการณ์ให้วงการเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีข้อจำกัดสำคัญคือไม่สามารถเข้าใจโลกกายภาพได้อย่างแท้จริง เนื่องจากเรียนรู้เพียงข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ส่งผลให้การนำ AI ไปประยุกต์ใช้กับหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์ในโลกจริงยังเป็นความท้าทาย

ล่าสุดนักวิจัยได้พัฒนา Physical AI ที่มุ่งแก้ไขข้อจำกัดนี้ผ่าน 2 แนวทางหลัก ได้แก่

  1. Generative AI physicality by words - การเพิ่มข้อมูลด้านกายภาพและฟิสิกส์เข้าไปในชุดข้อมูลฝึกฝน
  2. Generative AI physicality by deeds - การให้ AI เรียนรู้ผ่านการควบคุมอุปกรณ์จริงและรับข้อมูลจาก sensors ต่างๆ

ปัจจุบันมีการพัฒนา AI 3 รูปแบบควบคู่กัน ได้แก่ Generative AI, Agentic AI (AI ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยมนุษย์) และ Physical AI ซึ่งสามารถผสมผสานกันได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ Barebones Physical AI, Generative Physical AI, Agentic Physical AI และ Generative Agentic Physical AI

Physical AI จึงถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ AI ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันPhysical AI: ความท้าทายใหม่ในการพัฒนา AI ที่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกกายภาพ

การพัฒนา Physical AI กำลังเผชิญความท้าทายสำคัญสองประการ คือการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงและการจำลองสถานการณ์

ประการแรก คือคำถามว่า AI จำเป็นต้องมี "embodiment" หรือการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงในโลกกายภาพหรือไม่ หรือการเรียนรู้ผ่านข้อมูลตัวอักษรเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ ประการที่สอง คือความเป็นไปได้ในการใช้ระบบจำลองสถานการณ์เพื่อฝึกฝน AI ให้เข้าใจปรากฏการณ์ทางกายภาพต่างๆ เช่น แรงโน้มถ่วงและแรงเสียดทาน

ปัจจุบัน ChatGPT สามารถอธิบายปรากฏการณ์ทางกายภาพได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับการฝึกฝนมา แต่ในอนาคต Physical AI จะสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงโดยใช้หุ่นยนต์ที่มีเซนเซอร์และกล้องในการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การพัฒนา Physical AI จำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ตามกฎของ Isaac Asimov ที่ระบุว่าหุ่นยนต์ต้องไม่ทำร้ายมนุษย์หรือปล่อยให้มนุษย์ได้รับอันตราย เนื่องจาก Physical AI สามารถส่งผลกระทบต่อโลกกายภาพได้จริง ต่างจาก AI ที่ทำหน้าที่เพียงการสื่อสารหรือให้คำแนะนำ

#PhysicalAI #RoboticAI #AIEthics #AITechnology #TechNews

Why it matters

💡 บทความนี้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการ AI ที่กำลังก้าวไปสู่ยุค Physical AI ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำงานของ AI ในโลกจริง ผู้อ่านจะได้เข้าใจว่าทำไม AI จึงต้องพัฒนาความสามารถในการเข้าใจโลกกายภาพ และเรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่าง Physical AI กับ Generative AI แบบดั้งเดิม รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการพัฒนาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอนาคต ซึ่งเป็นความรู้สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวทันเทคโนโลยี AI ยุคใหม่

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.forbes.com/sites/lanceeliot/2025/01/24/heres-why-physical-ai-is-rapidly-gaining-ground-and-lauded-as-the-next-ai-big-breakthrough/

Read more

ChatGPT ทำให้ Siri โง่ลงจริงหรือ?

news

ChatGPT ทำให้ Siri โง่ลงจริงหรือ?

แอปเปิลเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นหลังผสาน ChatGPT เข้ากับ Siri ใน iOS 18 ผลทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพแย่ลงกว่าเดิม ตอบคำถามผิดพลาดและไม่แม่นยำ สะท้อนความท้าทายในการพัฒนา AI Assistant

By
82% ขององค์กรระบุว่าการขาดความโปร่งใสของ AI นำไปสู่ปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

news

82% ขององค์กรระบุว่าการขาดความโปร่งใสของ AI นำไปสู่ปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

ผลสำรวจชี้องค์กร 82% กังวลปัญหา digital chaos จากความซับซ้อนของระบบอัตโนมัติ ต้องจัดการจุดเชื่อมต่อเฉลี่ย 50 จุด เสี่ยงปัญหา compliance และความล้มเหลวของกระบวนการหลัก

By
ทรัมป์เปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐาน Stargate AI

news

ทรัมป์เปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐาน Stargate AI

อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เปิดตัวโครงการ Stargate เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐฯ ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูล ระบบประมวลผล การเทรน AI และ Edge Computing

By
บริษัท AI จีนเผยโมเดลโอเพนซอร์สตัวใหม่เหนือกว่าโมเดลที่ก้าวหน้าที่สุดที่ OpenAI เปิดตัวสู่สาธารณะ

news

บริษัท AI จีนเผยโมเดลโอเพนซอร์สตัวใหม่เหนือกว่าโมเดลที่ก้าวหน้าที่สุดที่ OpenAI เปิดตัวสู่สาธารณะ

DeepSeek บริษัทจีนสร้างปรากฏการณ์วงการ AI ด้วยการเปิดตัวโมเดล R1 แบบ open source ที่มีประสิทธิภาพทัดเทียม OpenAI o1 เปิดโอกาสให้นักพัฒนาต่อยอดได้อย่างอิสระ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความเข้มข้น

By