เมือง Raleigh ใช้ AI วางแผนรับมือความร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนอย่างเป็นทางการในปี 2024 Raleigh มีแนวโน้มที่จะประสบกับสภาพอากาศร้อนระอุ

เมือง Raleigh ใช้ AI วางแผนรับมือความร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Key takeaways

  • เมือง Raleigh คาดว่าจะเผชิญกับสภาพอากาศร้อนระอุในปี 2024 โดยอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ และฤดูร้อนร้อนขึ้นประมาณ 5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุค 70s
  • ความร้อนสุดขีดทวีความรุนแรงมากขึ้น จนมีการเพิ่มสีม่วงแดง (Magenta) บนแผนที่อากาศเพื่อแทนระดับความร้อนที่อันตรายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพต่อประชาชนสูงมาก
  • Raleigh ร่วมมือกับ Esri ใช้เทคโนโลยี GIS และ AI เพื่อสร้าง Digital Twin ของเมือง วิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาเมือง เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการรับมือความร้อน
  • Raleigh วางแผนใช้ AI Models เพื่อจัดลำดับความสำคัญของมาตรการบรรเทาผลกระทบ เช่น การปลูกต้นไม้ ติดตั้งถนน Cool pavement และทดลองประสิทธิภาพของมาตรการต่างๆ ในการลดความร้อน

ทุกภูมิภาคในรัฐ North Carolina คาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ และฤดูร้อนในเมือง Raleigh ตอนนี้ร้อนขึ้นประมาณ 5 องศาเมื่อเทียบกับยุค 70s ตามรายงานของ Climate Central

ความร้อนที่สุดขีดได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนสีแดงไม่ใช่สีที่ร้อนที่สุดบนแผนที่อากาศอีกต่อไป National Weather Service และ Centers for Disease Control ได้เพิ่มสีม่วงแดง (Magenta) เพื่อแทนระดับความร้อนที่อันตรายยิ่งขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้เกิด Heat Wave ที่รุนแรงและถี่ขึ้น ตอนนี้สีแดงหมายถึง 5% ของวันที่ร้อนที่สุดในแต่ละพื้นที่ แต่สีม่วงแดงบ่งบอกถึง Heat Wave ที่ร้อนจัดและยาวนานเป็นพิเศษ โดยมีการคลายร้อนในเวลากลางคืนน้อยมาก เหตุการณ์ความร้อนสุดขีดเหล่านี้เป็นความเสี่ยงด้านสุขภาพต่อประชาชนสูงกว่ามาก

Dr. Este Geraghty หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของ Esri ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน GIS (Geographic Information Systems) ที่ทำงานร่วมกับทำเนียบขาวและเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ รวมถึง Raleigh กล่าวว่า "สำหรับบางคนมันอาจเป็นแค่ความไม่สะดวกสบาย แต่บางคนอาจเกิดอาการเครียดจากความร้อน หรืออาการ Heat Stroke นอกจากนี้มันยังทำให้โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง แม้แต่ปัญหาสุขภาพจิตแย่ลง" "ในฐานะแพทย์ ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความร้อนทำให้ฉันกังวลอย่างยิ่ง"

อย่างน้อย 2,300 คนเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความร้อนในปีที่แล้ว ตามการวิเคราะห์ข้อมูลของ CDC โดย Associated Press ซึ่งเป็นสามเท่าของค่าเฉลี่ยรายปีระหว่างปี 2004-2018 ความร้อนคร่าชีวิตผู้คนในแต่ละปีมากกว่าพายุเฮอริเคน น้ำท่วม และทอร์นาโดรวมกัน ตามข้อมูลของ National Weather Service Geraghty กล่าวว่าเทคโนโลยีด้านภูมิศาสตร์ของ Esri มุ่งพัฒนา Location Intelligence เฉพาะเพื่อลดความเสี่ยงในพื้นที่ที่ร้อนที่สุดของเมือง "คุณสามารถใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุบางประการหรือคาดการณ์ว่าสภาพภูมิอากาศจะเป็นอย่างไรในอนาคต จากนั้นคุณก็สามารถเริ่มจัดลำดับความสำคัญให้กับพื้นที่ปฏิบัติการของคุณ" Geraghty กล่าว

เมื่ออุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นในเมือง พื้นที่ปูด้วยคอนกรีตสามารถทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กดูดความร้อนที่เรียกว่า Urban Heat Islands เมือง Raleigh รวบรวมข้อมูลในปี 2021 เพื่อทำแผนที่ว่าพื้นที่ร้อนเหล่านี้ตั้งอยู่ที่ใด และพบว่าพื้นที่ที่มีถนน อาคาร และพื้นผิวปูอื่นๆ อาจร้อนกว่าพื้นที่ที่มีต้นไม้และร่มเงาได้ถึง 20 องศา

ขณะนี้ นักวางแผนของ Raleigh กำลังเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microclimates เหล่านี้โดยใช้ซอฟต์แวร์ Esri เพื่อสร้าง Digital Twin ของเมือง ซึ่งเป็นสำเนาเสมือนจริงที่ใช้ AI เพื่อสำรวจว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาเมืองมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร

"ข้อมูลนี้ช่วยให้เราคิดในมุมมองภาพรวมของทั้งเมืองว่าเรามีเงินทุน เวลา และทรัพยากรเท่าไร และช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญให้กับพื้นที่ที่ผู้คนจะต้องการมากที่สุด" Megan Anderson ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนของ Raleigh กล่าว

ระบบนี้สามารถสร้าง model เพื่อแสดงว่าถนนหรืออาคารใหม่จะส่งผลกระทบต่อเมืองอย่างไร โดยการปิดกั้นลมหรือดูดซับความร้อนมากขึ้น และสิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น "Raleigh เป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ" Anderson กล่าว "เราจะยังคงเห็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นต่อไป และกลยุทธ์รับมือความร้อนในเมืองอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามการพัฒนาเมืองของเราที่เปลี่ยนแปลงไป"

Raleigh วางแผนที่จะใช้ AI Models เพื่อจัดลำดับความสำคัญของมาตรการบรรเทาผลกระทบ เช่น จะปลูกต้นไม้หรือติดตั้งถนน Cool pavement ที่ใดบ้าง และแม้แต่ทดลองว่ามาตรการใดจะให้ผลในการลดความร้อนได้ดีที่สุด

Why it Matters

💡
ข่าวนี้เป็นสิ่งที่ผู้อ่านควรให้ความสนใจ เพราะเป็นการนำเทคโนโลยี AI และ Digital Twin มาใช้ในการวางแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเมือง Raleigh ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและมีผลกระทบในวงกว้าง ผู้อ่านจะได้เรียนรู้ถึงแนวทางใหม่ๆ ในการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในเมืองที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายเมืองทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ข้อมูลอ้างอิงจาก Raleigh's hot: AI mapping helps plan for growth amid climate change

Read more

หุ่นยนต์ AI อนาคตที่ Google X มองเห็น

News

หุ่นยนต์ AI อนาคตที่ Google X มองเห็น

Key takeaway * Google X เป็นห้องปฏิบัติการนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาระดับโลกด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมีแนวคิด "Moonshot" ที่ต้องส่งผลกระทบต่อคนนับร้อยล้าน มีเทคโนโลยีที่เปิดแนวทางใหม่ และมีโซลูชันทางธุรกิจที่แหวกแนว * ผู้เขียนเข้

By
Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ในการฝึกฝน AI มานานกว่า 17 ปี

News

Meta เผยใช้ข้อมูลโซเชียลฝึก AI มา 17 ปี

Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโพสต์สาธารณะบน Facebook และ Instagram มาฝึกระบบ AI ของบริษัทตั้งแต่ปี 2550 สร้างความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีตัวเลือกปฏิเสธการเก็บข้อมูลในหลายประเทศ

By