ควรหรือไม่ที่นักเรียนจะใช้เครื่องมือออนไลน์และ AI ในการเรียน?

ตอนนี้รัฐบาลหลายประเทศกำลังพิจารณาออกมาตรการเข้มงวดกับ AI Tools ที่นักเรียนนักศึกษานิยมใช้กันมากขึ้นเรื่อยๆ มีการถกเถียงกันมากว่าควรจะแบนการใช้ AI และ Online Tools เพื่อการศึกษาหรือไม่ โดยมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ควรหรือไม่ที่นักเรียนจะใช้เครื่องมือออนไลน์และ AI ในการเรียน?

Key takeaway

  • เครื่องมือ AI สามารถทำให้การเรียนรู้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ความเป็นส่วนตัว การลอกเลียนแบบ และความไม่เท่าเทียมกันเป็นข้อกังวลที่ถูกต้อง
  • การกำกับดูแล AI อาจสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์และความเสี่ยง

กรมการศึกษาของนครนิวยอร์กได้สั่งห้ามใช้ ChatGPT โดยอ้างว่าส่งผลกระทบในทางลบต่อนักเรียนและวิธีการทำงานของระบบการศึกษา ได้มีการถกเถียงกันมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือออนไลน์และ AI สำหรับการเรียนรู้ รัฐบาลบางแห่งกำลังพิจารณาที่จะห้ามแชทบอท AI ใหม่และ Generative AI โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว การลอกเลียนแบบ และศักยภาพที่เครื่องมือเหล่านี้จะถูกใช้ในการสร้างเนื้อหาที่เป็นอันตราย

มีความสับสนมากมายในประเด็นนี้ โดยหลายฝ่ายสนับสนุนการห้ามใช้เครื่องมือ AI ในขณะที่บางคนคัดค้านความคิดนี้ ข้อโต้แย้งที่เข้มแข็งที่สนับสนุนเครื่องมือเหล่านี้คือ สามารถใช้เพื่อให้ประสบการณ์การเรียนรู้ส่วนบุคคลสำหรับนักเรียน ช่วยเหลือพวกเขาในงานเขียนและงานสร้างสรรค์ และให้ความรู้เกี่ยวกับ AI แก่พวกเขา

การห้ามใช้ AI สำหรับการเรียนรู้จะเป็นความคิดที่ดีหรือไม่?

รัฐบาลทั่วโลกกำลังพิจารณาว่าจะห้ามใช้เครื่องมือ AI สำหรับการเรียนรู้หรือไม่ พวกเขามีข้อกังวล แต่การห้ามโดยสิ้นเชิงอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คุณไม่สามารถห้ามสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิงเพราะผู้คนจะยังคงหาวิธีใช้งานต่อไป เช่นเดียวกับที่ TikTok ถูกห้ามในหลายรัฐ แต่ผู้คนยังคงใช้ VPN และวิธีอื่น ๆ เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้

เครื่องมือ AI ทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้น เนื่องจากช่วยให้นักเรียนจัดการและจัดระเบียบงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องมือดังกล่าวยังช่วยครูในงานต่างๆ เช่น การให้เกรด ทำให้ครูมีเวลามากขึ้นในการช่วยเหลือนักเรียน แม้ว่าการใช้เครื่องมือ AI จะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เว็บไซต์จำนวนมากกำลังขโมยข้อมูลจากนักเรียนโดยไม่ได้รับความยินยอม อีกข้อกังวลที่สำคัญคือเครื่องมือเหล่านี้มีความแม่นยำหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ChatGPT บางครั้งให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง (Hallucinations) มันเกิดขึ้นเมื่อ AI ให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องแก่คุณอย่างมั่นใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ท้าทายสำหรับผู้ใช้

8 เหตุผลว่าทำไมนักเรียนนักศึกษาไม่ควรใช้ AI และ Online Tools ในการเรียน

  1. ความกังวลด้าน Privacy AI และ Online Tools มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว รูปแบบการเรียนรู้ และสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Privacy ของนักเรียน ซึ่งยังไม่มีการควบคุมดูแลชัดเจน ทำให้มีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
  2. พึ่งพา Tools มากเกินไป บางคนมองว่านักเรียนใช้ AI และ Online Tools มากเกินไป หลายคนใช้ AI Chatbots ในการทำการบ้าน ซึ่งอาจทำให้ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาด้วยตัวเองลดลง รวมถึงการพึ่งพา Tools ตลอดเวลาอาจลดความคิดสร้างสรรค์ด้วย
  3. ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึง นักเรียนบางคนอาจไม่สามารถใช้ AI และ Online Tools ได้เท่ากัน โดยเฉพาะคนจากครอบครัวยากจนที่อาจไม่มี Tech Devices หรือนักเรียนจากชุมชนด้อยโอกาสอาจไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลหรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมได้ ทำให้การเข้าถึงการศึกษาไม่เท่าเทียมกัน
  4. ความเสี่ยงในการ Plagiarism Online Tools อาจทำให้นักเรียน Plagiarism ได้ง่ายขึ้น เช่น Essay Bots และ AI อาจถูกใช้ในทางที่ผิดเพื่อโกงได้ เพราะ AI Tools ถูก Train ด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้มีโอกาสสูงที่จะให้ข้อมูลซ้ำๆ กัน ส่งผลเสียต่อความซื่อสัตย์ในการเรียนรู้
  5. ปฏิสัมพันธ์กับคนลดลง การเรียนรู้ไม่ได้เกี่ยวกับข้อมูลอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงทักษะทางสังคมด้วย ถ้าใช้ Online Tools ต้องแน่ใจว่าเรียนรู้จริงๆ ไม่ใช่แค่ Copy Paste การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เวลาพบปะกับครูอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นลดลง ส่งผลต่อพัฒนาการทางสังคม
  6. การสอนแบบดั้งเดิมลดลง การรีบนำ AI มาใช้อาจทำให้ละเลยวิธีการสอนแบบดั้งเดิม เพราะ AI ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับทั้งผู้คนและระบบการศึกษา
  7. การเรียนรู้แบบ Depersonalized แม้ AI จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Personalized ได้ แต่ก็อาจทำให้การศึกษากลายเป็น Depersonalized ได้เช่นกัน บางคนเชื่อว่าสัมผัสและคำแนะนำจากครูผู้สอนเป็นสิ่งที่เทคโนโลยียังทดแทนไม่ได้ในตอนนี้
  8. ข้อกังวลด้านจริยธรรม ประเด็นจริยธรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลทั่วโลกต้องออกมาตรการกับ Online Tools เพราะ Generative AI และ Chatbots ยังไม่มีการควบคุมดูแล ใครก็ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรก็ได้ คำถามเกี่ยวกับจริยธรรมข้อมูล ความลำเอียงของ Algorithm และผลกระทบต่อครูผู้สอนยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอยู่

6 เหตุผลที่นักเรียนควรใช้เครื่องมือออนไลน์และ AI ในการเรียน

  1. การเรียนรู้แบบ Personalized เครื่องมือ AI สามารถปรับแต่งการเรียนรู้ให้เหมาะกับความต้องการของนักเรียนแต่ละคน เทคโนโลยีนี้สามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบและความเร็วในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้เรียนที่ชอบการมองเห็นอาจได้รับกราฟิกและ animation มากขึ้น ในขณะที่ผู้เรียนที่ชอบการฟังอาจได้รับเนื้อหาเสียงมากขึ้น การปรับแต่งนี้ช่วยให้นักเรียนเรียนรู้ในแบบที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
  2. การเข้าถึงแหล่งข้อมูลมากมาย ในอดีต นักเรียนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการฝึกทำสมการคณิตศาสตร์และยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ derivative calculator ช่วยให้คุณแก้สมการและเรียนรู้ทีละขั้นตอน ในทำนองเดียวกัน ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะนักเรียน ขาดทักษะด้านไวยากรณ์ เครื่องมือออนไลน์และ AI ช่วยให้นักเรียนแก้ไขปัญหาไวยากรณ์ได้ง่ายขึ้น เครื่องมือสร้างเนื้อหาบางอย่างยังช่วยนักเรียนในการสร้างไอเดียที่แตกต่างและมุมมองที่ไม่ซ้ำใครสำหรับการสร้างเนื้อหาหรืองานเขียน ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้ว เครื่องมือออนไลน์และ AI กำลังช่วยให้นักเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย เครื่องมือเหล่านี้ให้ความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา นักเรียนสามารถค้นหาบทเรียนออนไลน์มากมายในหัวข้อต่างๆ พวกเขาสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนและแหล่งข้อมูลบนอุปกรณ์ของตนเอง ทำให้ง่ายต่อการจัดสรรเวลาเรียนเข้ากับตารางเวลาของพวกเขา
  4. การมีส่วนร่วมและการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น เครื่องมือออนไลน์ยังช่วยในการทำงานร่วมกันและการมีส่วนร่วมของนักเรียนกับครูผู้สอน เนื่องจากนักเรียนสามารถเชื่อมต่อกับครูทั่วโลกได้จากระยะไกล
  5. Feedback ทันที AI สามารถให้ Feedback ทันทีเกี่ยวกับการบ้านและแบบทดสอบ คุณสามารถถาม ChatGPT ได้ว่าสมการของคุณสำหรับการหา Integration ของฟังก์ชันไม่ทำงานและมันจะช่วยคุณแก้ไข คุณยังสามารถใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อคำนวณ Integral เรียนรู้และฝึกฝนออนไลน์ สิ่งนี้ช่วยให้นักเรียนระบุจุดที่ต้องปรับปรุงและช่วยให้มีการแทรกแซงได้ทันเวลาเพื่อแก้ไขช่องว่างการเรียนรู้
  6. การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ความคุ้นเคยกับ AI และเทคโนโลยีมีค่ามากขึ้นในตลาดงานปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น บริษัทต่างๆ จ่ายเงินเดือนที่ดีให้กับ Software Engineer ซึ่งเป็นงานที่ไม่มีอยู่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา! การใช้ AI สำหรับการเรียนรู้ช่วยให้นักเรียนมีทักษะด้าน Digital Literacy และเตรียมพร้อมสำหรับสถานที่ทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในอนาคต

สรุป

การห้ามใช้เครื่องมือ AI มักจะมีข้อโต้แย้งที่รุนแรงทั้งสองฝ่าย ผู้คนกังวลว่ามันจะส่งผลเสีย ในขณะที่ผู้ที่มองโลกในแง่ดีเชื่อว่า AI สามารถช่วยขับเคลื่อนการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีได้ รัฐบาลติดอยู่กับว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้นและง่ายขึ้นสำหรับนักเรียนและระบบการเรียนรู้

เป็นความจริงที่ว่าเครื่องมือ AI บางอย่างก่อให้เกิดปัญหา เช่น การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเอื้อต่อการโกง แต่การห้ามใช้อย่างสิ้นเชิงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เราได้เรียนรู้ว่าเครื่องมือ AI มีประโยชน์มากมาย มันสามารถปรับแต่งการเรียนรู้ ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น และช่วยให้นักเรียนจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูก็ได้ประโยชน์จาก AI เช่นกัน ประหยัดเวลาในงานด้านการบริหาร อย่างไรก็ตาม AI ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบสามารถก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมและล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว

ดังนั้น การห้ามใช้ AI เป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่? อาจไม่ใช่ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น รัฐบาลสามารถควบคุม AI เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว รับรองความเป็นธรรม และส่งเสริมการใช้งานอย่างรับผิดชอบ ด้วยวิธีนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ในขณะที่รับมือกับความท้าทายของมัน

Why it Matters

💡
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้เครื่องมือออนไลน์และ AI ในการเรียนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง บทความนี้นำเสนอมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการศึกษา พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลกระทบต่อนักเรียน ครู และระบบการศึกษาโดยรวม ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นนี้ได้ดียิ่งขึ้น

ข้อมูลอ้างอิงจาก Generative AI: Business Sectors That Can Benefit

Read more

หุ่นยนต์ AI อนาคตที่ Google X มองเห็น

News

หุ่นยนต์ AI อนาคตที่ Google X มองเห็น

Key takeaway * Google X เป็นห้องปฏิบัติการนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาระดับโลกด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยมีแนวคิด "Moonshot" ที่ต้องส่งผลกระทบต่อคนนับร้อยล้าน มีเทคโนโลยีที่เปิดแนวทางใหม่ และมีโซลูชันทางธุรกิจที่แหวกแนว * ผู้เขียนเข้

By
Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ในการฝึกฝน AI มานานกว่า 17 ปี

News

Meta เผยใช้ข้อมูลโซเชียลฝึก AI มา 17 ปี

Meta เปิดเผยว่าได้ใช้ข้อมูลจากโพสต์สาธารณะบน Facebook และ Instagram มาฝึกระบบ AI ของบริษัทตั้งแต่ปี 2550 สร้างความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีตัวเลือกปฏิเสธการเก็บข้อมูลในหลายประเทศ

By